ความเคลื่อนไหว ทัพ “ช้างศึก” ฟุตบอลชายทีมชาติไทยที่เตรียมลงทำศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดสุดท้าย ดวลกับทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้สเตเดี้ยม ประเทศกาตาร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ม.ค.นี้
ล่าสุด มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาว ญี่ปุ่น เข้าแถลงความพร้อมก่อนเกมนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่ห้องแถลงข่าว เมน มีเดีย เซ็นเตอร์ ประเทศกาตาร์ โดยกุนซือชาวญีปุ่น เผยว่า
"ซาอุดีอาระเบียถือว่าเป็นทีมเต็งสำหรับรายการนี้ และตั้งเป้าเป็นแชมป์ เกมรุกมีความแข็งแกร่ง ดุดัน มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดี เกมนี้ไทยคงจะต้องเล่นเกมรับมากกว่า 2 นัด ที่ผ่านมาที่ทำได้ดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามจะมองหาโอกาสทำประตูเพื่อเป็นผู้ชนะในเกมนี้เช่นกัน"
"สำหรับสถานการณ์ของกลุ่มอื่น มันมีผลแน่นอน แต่เราก็จะเตรียมความพร้อมตัวเองไม่ว่าสถานการณ์จะออกมาเป็นแบบไหนก็ตาม"
อนึ่ง สถิติการดวลกันระหว่าง ไทย และ ซาอุดีอาระเบีย นั้นเคยดวลกันมาแล้ว 17 นัดนับตั้งแต่ เดือนกันยายน ปี 1981 และล่าสุดเจอกันในเมื่อปี 2017 ปรากฏว่า ไทย ชนะเพียง 3 นัด เสมอ 1 นัด และซาอุดีอาระเบีย ชนะ 13 นัด
ส่วนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 2 นัด ไทย แพ้ทั้งหมด ส่วนครั้งสุดท้ายที่ ไทย ชนะ ซาอุดีอาระเบีย ต้องย้อนกลับไปที่บอล ไลออนส์ ซิตี้ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.1982 ซึ่ง ไทย ชนะ ซาอุดีอาระเบีย ไป 1-0 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 42 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ สถานการณ์ของทีมชาติไทย หากชนะเกมนี้จะเป็นแชมป์กลุ่ม เอฟ ไปพบกับ รองแชมป์ กลุ่มอี (เกาหลีใต้, จอร์แดน, บาห์เรน) แต่ หากเสมอ จะเป็นรองแชมป์กลุ่ม เอฟ เข้ารอบ 16 ทีม สุดท้าย ไปพบกับ อุซเบกิสถาน รองแชมป์กลุ่มบี และหากแพ้ และประตูได้เสียเป็นรอง โอมาน ที่เอาชนะ คีร์กิซสถาน ได้ จะต้องพบกับ อิรัก แชมป์กลุ่มดี