
“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เหมือนจะสบาย แต่มาเสียวช่วงท้าย ก่อนจะเฉือนเอาชนะ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ไปพบกับแชมป์ยุโรปอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
โดยในเกมนี้เล่นกันที่เมตไลฟ์ สเตเดี้ยม ในรูเธอร์ฟอร์ด สหรัฐอเมริกา แฟนบอล เรอัล มาดริด เข้ามาชมเกมมากกว่าเต็มไปด้วยสีขาว เกมนี้ยังจัดไลน์อัพชุดเดิม กอนซาโล่ การ์เซีย ยังคงได้รับโอกาสก่อน คิลียัน เอ็มบัปเป้ ที่มีชื่อเป็นสำรอง
เริ่มเกมมาเพียงแค่ 10 นาที เรอัล มาดริด ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย อาร์ด้า กือแลร์ ได้ตั้งป้อมเปิดด้วยซ้ายไปให้กับ กอนซาโล่ การ์เซีย เข้าชาร์ตโล่ง ๆ ไม่เหลือ
รูปเกมยังเป็น เรอัล มาดริด ที่บุกเข้าใส่นาทีที่ 20 มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากการประสานงานอันยอดเยี่ยมทางฝั่งขวาทำชิ่งจน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หลุดเข้าไปเปิดให้ ฟราน การ์เซีย เปิดเข้ามาซัดจ่อ ๆ
หลังขึ้นนำสองประตู เรอัล มาดริด ผ่อนเกมลงมาเน้นตั้งรับมากขึ้น แต่ปัญหาคือเกมรุกของ ดอร์ทมุนด์ ที่ไม่มีความอันตราย ไม่สามารถกดดันคู่แข่งได้ ทำให้จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ออกนำ 2-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง ดอร์ทมุนด์ ปรับเกมรุกถอด คาริม อเดเยมี่ ที่เล่นไม่ออก ส่ง มักซิมิเลี่ยน ไบเออร์ ลงเล่นมา รูปเกมดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นเรื่องยากลำบากในการหาจังหวะจบสกอร์
เป็นทางฝั่งทีมชุดขาวที่ทำเกมรุกได้ดีกว่า แม้จะถอนแกนหลักออกไปพักก็ตาม ครบครองบอลอย่างเหนียวแน่นเล่นกับเวลา เพราะ ดอร์ทมุนด์ ไม่ได้สร้างความลำบากให้เลย
เกมมาสนุกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ดอร์ทมุนด์ มาได้ประตูตีไข่แตกจาก มักซิมิเลี่ยน ไบเออร์ ในนาทีที่ 90+3 แต่ดีใจได้ไม่นาน นาทีที่ 90+4 คิลียัน เอ็มบัปเป้ ขึ้นฟาดจ่อ ๆ นำห่าง 3-1 เกมทำท่าว่าจะจบ
อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ดีน เฮาจ์เซ่น ไปดึง แซร์ฮู กีราสซี่ จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และเป็น กีราสซี่ ที่ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาดไล่มาเป็น 2-3
เวลาเหลือน้อย ได้ลุ้นจาก ซาบิตเซอร์ แต่กูร์กตัวส์ ก็เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ สุดท้ายไล่ไม่ทัน ทำให้จบเกม เรอัล มาดริด เฉือนเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในศึกชิงแชมป์สโมสรโลกไปพบกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส
สรุปรอบรองชนะเลิศชิงแชมป์สโมสรโลก 2025
วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2025
02.00น. ฟลูมิเนนเซ่ (บราซิล) - เชลซี (อังกฤษ)
วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2025
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) - เรอัล มาดริด (สเปน)