ความคืบหน้าหลังจากที่ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญีปุ่น ตัดสินใจยุติบทบามประธานเทคนิคทีมชาติไทย พร้อมกันนี้ก็ยกเลิกสัญญากับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อเดินทางกลับญี่ปุ่น บ้านเกิดทันที

โดย อิชิอิ ที่สร้างผลงานมาสเตอร์พีซกับ บุรีรัมย์ ด้วยการพาทีมเป็น เทรเบิ้ลแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน กระทั่ง เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรสั่งให้เจ้าตัวเข้ามาทำหน้าที่ ประธานเทคคนิคทีมชาติไทย ทั้งที่ไทยลีกฤดูกาลเปิดฉากไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม อิชิอิ ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือทีมชาติไทยคนใหม่ต้องรอเก้อ เมื่อ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทัพ ช้างศึก คนปัจจุบัน ทำผลงานในศึกคิงส์คัพ ที่ผ่านมาได้ดีเกินคาด ทั้งเอาชนะ รวมทั้งกระแสนักเตะในทีมก็หนุนหลังเต็มที่ด้วย ทำให้ กุนซือชาวบราซิล ได้รับโอกาสคุมทีมต่อไปอย่างน้อยจนหมดสัญญาในเดือน ก.พ. ปีหน้า

กระทั่ง อิชิอิ ได้ตัดสินใจอำลาตำแหน่งดังกล่าว พร้อมกับยกเลิกสัญญาที่มีอยู่กับ บุรีรัมย์ ด้วย ก่อนที่จะโพสต์ขอบคุณทุกกำลังใจผ่านทาง อินสตราแกรมส่วนตัว และจากนี้จะเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิดทันที

ล่าสุดในเรื่องนี้ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้แล้วผ่านทางเฟสบุคส่วนตัว

“แป้ง เชื่อว่าตอนนี้ทีมกำลังอยู่ในบรรยากาศ และ โมเมนตั้มที่ดี เห็นได้จากผลงานในศึกคิงส์คัพ ครั้งล่าสุด เราเอาชนะทีมที่มีอันดับโลกสูงกว่าอย่าง เลบานอน ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี และ สู้กับ อิรัก ทีมอันดับ 7 ของเอเชีย ได้อย่างสนุก ดังนั้น อย่างที่ แป้ง เคยพูด มาโน จะยังเป็นเฮดโค้ชของทีมชาติไทย ต่อไป เพราะยังมีสัญญากับ สมาคมฯ ถึงเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2567 และนักเตะในทีมก็ยังแฮปปี้ ในการทำงานแบบต่อเนื่องร่วมกับ โค้ชมาโน่”

“ส่วน โค้ชอิชิอิ ที่ผ่านมา ก็มีการวางตัวที่ดี และ สนับสนุน มาโน เต็มที่ในฐานะประธานเทคนิค ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธว่าเป็นโค้ชที่มีความสามารถ และ มีประสบการณ์สูง แต่เนื่องจากบทบาทหน้าที่ของ โค้ชอิชิอิ ที่เคยเป็นเฮดโค้ชมาตลอด ก็ทำให้ไม่สะดวกที่จะทำหน้าที่ประธานเทคนิค ต่อไปได้ ก็อยากขอบคุณ โค้ชอิชิอิ สำหรับความมุ่งมั่น และ ทุ่มเทในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่มีโอกาสรู้จักกัน รวมถึงอวยพรให้โชคดีในอนาคต” มาดามแป้ง กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย นั้นมีงานใหญ่รออยู่คือศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ซึ่งไทยจะประเดิมสนามดวล ทีมชาติจีน ในวันที่ 16 พ.ย. นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีโปรแกรมฟีฟ่าเดย์อุ่นเครื่องอีก 2 นัด เยือนจอร์เจีย วันที่ 12 ต.ค. และเยือนเอสโตเนีย วันที่ 17 ต.ค.